คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ไปเยือนสโมสรเดิมของตัวเองอีกครั้ง ในขณะตัวเขาเองกำลังอยู่ในฟอร์มสุดยอด โรนัลโด้กลายเป็นผู้ทำประตูชัย จากการโหม่งของเขาในนาทีที่ 62 แต่ 3 คะแนนของยูไนเต็ด นั้น ต้องขอบคุณฟอร์มการเซฟอันยอดเยี่ยมของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ด้วย
พบ โรม่า (เหย้า) 2 ตุลาคม 2007
รอบคัดเลือกนัดที่ 2 กลุ่ม F
ชนะ 1-0
เวย์น รูนี่ย์ และประตูแรกในฤดูกาล นาทีที่ 70 ยิงไปที่เสาไกล และนั่นเพียงพอแล้วสำหรับเกมที่ต่างฝ่ายต่างสร้าง(และพลาด)ในการตั้งเกมอย่างมากมาย ท้ายที่สุดกองหลังปิศาจแดงต่างก็ได้รับคะแนนความสามารถเต็มเปี่ยม
พบ ดินาโม เคียฟ (เยือน) 23 ตุลาคม 2007
รอบคัดเลือกนัดที่ 3 กลุ่ม F
ชนะ 4-2
เกมมักจะเปิดแลกกันตลอด นี่เป็นการแข่งขันที่ ยูไนเต็ด เล่นได้อย่างไหลลื่น และคล่องแคล่วมากตลอดทั้ง 90 นาที เคียฟ เล่นแบบกองหน้า 3 ตัว แต่ก็เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเบซ และเวย์น รูนี่ย์ ที่ก่อกวนกองหลังเคียฟ ได้มากกว่า
พบ ดินาโม เคียฟ (เหย้า) 7 พฤศจิกายน 2007
รอบคัดเลือกนัดที่ 4 กลุ่ม F
ชนะ 4-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ 4 ประตู ช่วยให้ ยูไนเต็ด ผ่านทีมจากยูเครนได้สำเร็จในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ดไม่เสียประตู โดย แดนนี่ ซิมป์สัน และเคราร์ด ปิเก้ เล่นได้อย่างน่าชมเชยสำหรับประสบการณ์ของพวกเขาในการเป็นสมาชิกในแผงหลัง ปิเก้เล่นได้อย่างสุดยอดจนน่าที่จะได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ และยูไนเต็ดสามารถทำประตูทั้งหมดได้ในเวลาแค่ 31 นาที
พบ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (เหย้า) 27 พฤศจิกายน 2007
รอบคัดเลือกนัดที่ 5 กลุ่ม F
ชนะ 2-1
เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ซึ่งทำประตูในนัดแรกได้ทำประตูอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นลูกฟรีคิกตอนทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ช่วยให้ยูไนเต็ดขึ้นนำก่อน แล้วเป็นคาร์ลอส เตเบซ มาปิดท้ายในช่วงที่เกมผ่านมาได้ 1 ชั่วโมง
พบ โรม่า (เยือน) 12 ธันวาคม 2007
รอบคัดเลือกนัดที่ 6 กลุ่ม F
เสมอ 1-1
ขณะที่ทั้ง 2 ทีมเขาไปสู่รอบต่อไปได้อย่างแน่นอนแล้ว ดังนั้นนัดนี้จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้ทดลองผู้เล่นตัวสำรองอื่นๆ ยูไนเต็ดจึงส่งนักเตะเด็กลงในนัดนี้ ซึ่งชุดนี้เป็นชุดที่ใช้ลงในถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ แล้วตกรอบ ดังนั้นมันจึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้แก้ตัวในนัดนี้ ที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก เคราร์ด ปิเก้ เป็นผู้ทำประตูให้ยูไนเต็ดขึ้นนำ ซึ่งเป็นลูกที่ 2 ของเขา แต่หลังจากนั้น มันชินี่ ก็ยิงประตูแบ่งแต้มให้โรม่า
พบ โอลิมปิก ลียง (เยือน) 20 กุมภาพันธ์ 2008
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เสมอ 1-1
ยูไนเต็ด เกือบกลับมามือเปล่า แต่คาร์ลอส เตเบซ ก็สร้างผลประโยชน์ให้แก่ทีมหลังหมดเวลาปกติแล้ว เริ่มต้นที่ คาริม เบนเซม่า หัวหอกตัวอันตรายยิงขึ้นนำหลังจากช่วงพักครึ่ง และดูเหมือนว่ามันจะเป็นประตูชัย จนกระทั่งคาร์ลอส เตเบซ ลงมาเป็นตัวสำรอง และทำให้ยูไนเต็ดได้ประตูอันมีค่ากลับออกมา
พบ โอลิมปิก ลียง (เหย้า) 4 มีนาคม 2008
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
ชนะ 1-0
ประตูที่ 31 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในฤดูกาลนี้ ครึ่งแรกสู้กันอย่างสนุก แต่ครึ่งหลังเหมือนแมวไล่หนู แต่ยูไนเต็ดเล่นอย่างกล้าหาญ และตั้งใจ นั่นทำให้เบนเซม่า ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
พบ โรม่า (เยือน) 1 เมษายน 2008
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
ชนะ 2-0
แม้เนมานย่า วิดิช จะไม่ได้ลง แต่ชัยชนะ 2-0 ก็ทำให้ข้อสงสัยในการเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศที่มอสโคว์ หมดไป โรนัลโด้ ลบคำสบประมาทที่ว่าเล่นเกมใหญ่ได้ไม่ค่อยดีโดยการโหม่งเบิกร่องให้ยูไนเต็ด ก่อนที่รูนี่ย์ จะฉวยโอกาสปิดเกมนี้ลงอย่างสวยงาม
พบ โรม่า (เหย้า) 9 เมษายน 2008
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ 2
ชนะ 1-0
หลังจาก ยูไนเต็ด เอาชนะได้ก่อนในนัดแรก จึงเป็นภาระของโรม่าที่จะบุกมาเอาคืนบ้าง ครึ่งแรกโรม่าได้จุดโทษจากการที่เวส บราวน์ สกัดมันชินี่ และเด รอซซี่รับหน้าที่สังหารจุดโทษเช่นเคย แต่เขาพลาด ดังนั้นโรม่าจึงต้องรับโทษจากลูกโหม่งของเตเบซ ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ด้วยผลรวม 2 นัด 3-0
พบ บาเซโลน่า (เยือน) 23 เมษายน 2008
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เสมอ 0-0
มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับ 2 ทีมที่มีเกมรุกที่ดีที่สุด นักวิเคราะห์หลายคนทำนายว่าคู่นี้จะยิ่งประตูกันถล่มทลาย แต่ผลคือ 0-0 อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มเกมได้เพียงแค่ 2 นาทียูไนเต็ด ก็ได้จุดโทษ และโรนัลโด้ จะเป็นผู้ยิง แต่เขาพลาดนั่นถือเป็นจุดพลิกผันของเกมเลยทีเดียว
พบ บาเซโลน่า (เหย้า) 29 เมษายน 2008
รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2
ชนะ 1-0
นักเตะมากประสบการณ์ พอล สโคลส์ เอี้ยวตัวยิงไกล ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าชิงชนะเลิศ หลังจากที่ พอล สโคลส์ ยิงเข้าไปนั้นบาร์เซโลน่า ก็โหมบุกหนัก เซอร์ อเล็กซ์ คอยแต่มองไปที่สกอร์บอร์ด
ลูกยิงของ เมสซี่ และอองรี ทำให้แฟนๆ ยูไนเต็ดแทบหยุดหายใจ อย่างไรก็ตามทุกอย่างมันหยุดลงหลังจากกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ก่อนที่แฟนยูไนเต็ด จะได้เฮอย่างจริงจัง
LP